Navigation Menu

ความเป็นแม่ในสังคมแตกแยก


Child's Pose ภาพยนตร์โรมาเนียปี2013 ผลงานของผู้กำกับ Calin Peter Netzer ออกฉายครั้งแรกในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน(63rd Berlin International Film Festival) ซึ่งที่นี่เองภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างสูงคว้ารางวัลสูงสุดคือ Golden Bear มาครอง นอกจากนั้นหนังยังเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์โตรอนโต (Toronto International Film Festival 2013) สำหรับนักแสดงอาวุโส Luminita Gheorghiu ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Best Actress ในยูโรเปียนฟิล์มอวอร์ด (26th European Film Awards) และยังชนะรางวัล Telia Film Award ที่ Stockholm International Film Festival 2013อีกทั้งหนังยังถูกเลือกอย่างเป็นทางการจากโรมาเนียให้เป็นตัวแทนส่งเข้าร่วมประกวดรางวัลออสการ์สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม 2014นี้ด้วย (86th Academy Awards)

เรื่องราวของคุณนายคอเนเลียเศรษฐีนีไฮโซวัย 60 ปีที่ยังไม่ยอมแก่ ซึ่งระหองระแหงกับลูกชายและลูกสะใภ้ตามภาษาคุณแม่ผู้จู้จี้ที่หวงลูกชายคนเดียวของเธอ แต่แล้ววันหนึ่งเธอได้รับแจ้งว่าขณะนี้ลูกชายอยู่ที่โรงพักแถวชานเมือง แน่นอนว่าคุณแม่ตรงไปที่นั้นทันที...

ความรักจากผู้เป็นแม่เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งทุกคนรู้ดี มันคือการให้ที่ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน  เมื่อใดที่ลูกมีปัญหาแม่ก็แทบจะนั่งไม่ติด ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อช่วยลูกให้ได้ แม้จะต้องขัดแย้งกับผู้คน ขัดแย้งกับสามี หรือแม้กระทั้งขัดแย้งกับตัวลูกของตนเองแม่ก็ยอม ขอเพียงให้ช่วยลูกให้ได้ก็พอโดยไม่สนใจหรอกว่าลูกต้องการให้ช่วยหรือเปล่า เพราะคนเป็นแม่นั้นทนเห็นลูกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากไม่ได้จริงๆ  เพราะสำหรับแม่แล้วห่วงใยลูกเสมอ ไม่ว่าลูกจะเข้าใจในความรักนั้นหรือเปล่าแม่ก็ยังรักลูกอยู่ดี แต่ถ้าลูกคนไหนเข้าใจแม่ก็อาจถือว่าแม่คนนั้นโชคดี แม้ว่าลูกจะโตเป็นควาย มีลูกมีเมียแล้ว ก็ยังเป็นเด็กๆสำหรับในสายตาแม่เสมอ และนี่อาจเป็นมุมมองของความเป็นแม่



แต่ถ้าเป็นมุมมองของคนในสังคมล่ะ ความรักนั้นอาจต้องถูกจำกัดความใหม่ เพราะไม่เช่นนั้นมันก็จะกลายเป็น 'พ่อแม่รังแกฉัน' เมื่อวันก่อนผมไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนที่ร้านอาหารหนึ่ง เหลือบไปเห็นโต๊ะข้างๆ เขามากันหลายคนดูเหมือนเป็นครอบครัวใหญ่ ในกลุ่มนั้นมีเด็กคนหนึ่งอายุน่าจะไม่เกิน10ขวบ คงเป็นลูกของพวกเขา ขณะนั่งกินข้าวอยู่ ข้างๆจานข้าวก็มี แท็บเล็ทตั้งอยู่เล่นเกมไปด้วย ผมกับเพื่อนยังคุยกันว่าถ้าเป็นสมัยพวกเราคงโดนผู้ใหญ่ดุแล้ว เด็กสมัยนี้โชคดีจัง ก็อาจจะจริงที่กินข้าวไปด้วย นั่งเล่นเกมไปด้วย ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนนิ ฆ่าสัตว์ประหลาดไปด้วย ได้ฝึกสมอง?!!? เด็กที่ถูกสปอยล์นี้ช่างโชคดีจริงๆเลย ลองมองดูสังคมชนชั้นกลางในปัจจุบันสิครับ มีแต่คนที่ถูกสปอยล์มา ต้องได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้น ผิดหวังบ้างไม่เป็น แพ้ไม่เป็น ยอมเขาบ้างสักหน่อยก็ไม่ได้ บางคนไปไกลถึงขนาดคิดว่าตนเองต้องมีสิทธิมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ แน่นอนว่า เด็กที่ถูกสปอยล์นี้ช่างโชคดีจริงๆ เพราะคนที่โชคร้ายคือคนอื่นที่ต้องยอมคนพวกนี้ต่างหาก เมื่อพ่อแม่รู้เช่นนี้เรื่องอะไรจะไม่สปอยล์ลูกของตนล่ะ อยากให้ลูกได้มากกว่าคนอื่นอยู่แล้ว พ่อแม่บางคนถึงกับตั้งชื่อลูกมีความหมายว่ามีสิทธิมากกว่าคนอื่นก็ยังมี ช่างภูมิใจเหลือเกินที่ลูกของตนอยู่เหนือลูกคนอื่น แม้คอเนเลียสาวใหญ่ไฮโซจะรักลูกของตนแค่ไหนก็มีสิ่งหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้นั้นก็คือ คนอื่นเขาก็รักลูกของเขาเช่นกัน ถ้าหยุดเพ่งมองแต่เรื่องของตัวเอง แล้วลองมองไปที่เรื่องของคนอื่นบ้าง บางทีอาจมีคำตอบที่คิดไม่ถึงรออยู่ ประโยคสุดท้ายของภาพยนตร์เรื่องนี้บ่งบอกความหมายที่ไปไกลกว่าภาพที่เห็น เพราะความรู้สึกนั้นมันมากมายเหลือเกิน



0 ความคิดเห็น: